“ภูมิทัศน์ใหม่ธุรกิจอุตสาหกรรมไทย ปี 2020 ” วสท. เตรียมจัดงานวิศวกรรมแห่งชาติ 62 วันที่ 13 - 15 พ.ย. นี้
ท่ามกลางกระแสคลื่นเศรษฐกิจผันผวนและคลื่นดิจิทัลที่ถาโถม หลายคนมีคำถามว่าปีหน้า 2020 ภูมิทัศน์ใหม่ของไทยจะเปลี่ยนไปอย่างไร ? งานของคน 1.8 ล้านคนจะเป็นของ AI หรือ? “โอกาส” และ “หนทางรอด” อนาคตผู้ประกอบการของประเทศจะเป็นอย่างไร ? วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) แถลงเตรียมจัดงานวิศวกรรมแห่งชาติปี2562 ซึ่งเป็นงานแสดงนิทรรศการทางวิศวกรรมใหญ่ที่สุดในประเทศ และเชิญผู้เชี่ยวชาญเปิดเวทีเสวนา เรื่อง“ภูมิทัศน์ใหม่ของธุรกิจอุตสาหกรรมไทย ปี 2020...ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น” บนเวทีเสวนาเมื่อเร็ว ๆ นี้ ดร.อนันต์ วรธิติพงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดประเด็นถึงดิจิทัลและ 5G ที่กำลังเข้ามาเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่านและการเชื่อมต่อวิถีชีวิตธุรกิจอุตสาหกรรมและโลกวิศวกรรมรวดเร็วยิ่งขึ้น เพิ่มช่องสัญญาณใน 1 ตารางกิโลเมตร สามารถรองรับ 1 ล้านการเชื่อมต่อได้พร้อมกัน ทำให้เกิดการพัฒนาธุรกิจและอุตสาหกรรมครั้งใหญ่ เช่น โรงงานอัจฉริยะ, ธุรกิจที่มีหลายสาขาเครือข่าย, การแพทย์ทางไกล, UAV อากาศยานไร้คนขับ เป็นต้น ขณะที่ ดร.วิกรม วัชระคุปต์ ประธานกรรมการคลัสเตอร์วัสดุก่อสร้างและกรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart Cities) และเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ได้เผยถึงแนวคิดและประโยชน์ และแผนงานในปี 2020 ที่ทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจะขับเคลื่อน SME ที่มีอยู่กว่า 10,000 บริษัท ใช้ดิจิทัลในการลดช่องว่างและพัฒนาผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม พร้อมไปกับส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนใช้ทรัพยากรให้น้อยลงแต่ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น โดยรองรับการพัฒนา Smart Cities และ Circular Economy ไปสู่เป้าหมาย
ดร.ธเนศ วีระศิริ นายก วสท. เปิดมุมมองว่า ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นจะเป็นเครื่องมือช่วยดิสรัปงานวิศวกรรมอย่างสร้างสรรค์ โดยเป็นโอกาสดีที่องค์กรและคนทำงานจะนำดิจิทัลมาเชื่อมโยงและปรับเปลี่ยนสู่องค์กรสมัยใหม่ ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์และบริการมีคุณภาพมากขึ้น สร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าแก่ลูกค้าส่งเสริมให้มีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่เพิ่มขึ้น ช่วยลดต้นทุน ประหยัดพลังงาน และสร้างผลกำไรมากขึ้น การเข้าถึงข้อมูลจะมีความแม่นยำและสะดวกมากยิ่งขึ้น แก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน แม้เศรษฐกิจจะมีความผันผวน แต่ประเทศไทยก็จะได้รับผลดีจากการเจรจาการค้าความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ในกลุ่มประเทศอาเซียน + 6 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ที่ไทยคาดว่าจะเจรจาสำเร็จในปลายปี 2019 ดังนั้นตลาดจะขยายใหญ่เท่ากับประชากรครึ่งหนึ่งของโลก ซึ่งเป็นผลดีและโอกาสของธุรกิจอุตสาหกรรมไทยและงานวิศวกรรมในอนาคต
ทางด้าน ดร.ชิต เหล่าวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ EEC ด้านพัฒนาการศึกษา บุคลากรและเทคโนโลยี ได้ยกประเด็นบทบาทของ AI & amp; Deep Tech ไม่ว่าจะเป็น Blockchain, Cloud, AI, Fintech, Quantum Computing จะยิ่งเข้ามาเปลี่ยนธุรกิจอุตสาหกรรมสู่คุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในประเทศและตลาดโลกยิ่งขึ้น กล่าวได้ว่าบนลู่การแข่งขันนั้น AI, Machine Learning และ Big Data เป็น “หนทางรอด” เดียวของเราไปสู่ความยั่งยืน ในปี 2020 คาดว่างานของคน 1.8 ล้านคน จะตกเป็นของ AI แต่ขณะเดียวกันก็จะสร้างงานใหม่เพิ่มขึ้นมารองรับอีกถึง 2.3 ล้านคน ภารกิจสำคัญคือการพัฒนาการศึกษาบุคลากร รองรับการพัฒนาประเทศและเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ช่วงเปลี่ยนผ่านแห่งยุค “ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์มเมชั่น” (Digital Transformation) ยกตัวอย่างการลงทุนด้านการพัฒนาบุคลากรและการพัฒนางานวิจัย ระหว่าง HPE Thailand และสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (FIBO) ใน EEC สร้างกรณีตัวอย่าง (Use Case) สำคัญให้กับประเทศ เพื่อนำไปต่อยอดสู่แผนแม่บทอย่างเป็นรูปธรรม โครงการ EEC ตั้งเป้าที่จะผลิตบุคลากรในการรองรับงานในสาขาต่าง ๆ ประมาณ 479,000 คนใน 10 เขตคลัสเตอร์ภาคตะวันออก โดย 38,000 คนจะรองรับงานเกี่ยวกับหุ่นยนต์, 120,000 คนจะรองรับตลาดงานด้านการพัฒนาดิจิทัล และ 15,000 คนจะประกอบอาชีพ Data Scientists โดย HPE Thailand จะให้ความร่วมมือในการอบรม Data Scientists ในลักษณะ Train the Trainer เพื่อการพัฒนา AI ร่วมกับ 24 มหาวิทยาลัยชั้นนำสู่การผลิตบัณฑิตระดับปริญญาตรี โท เอก และนักวิจัยที่มีศักยภาพในการสร้างระบบ AI ที่ประยุกต์ใช้งานได้จริง และยังมีความจำเป็นอย่างมากในการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในยุคดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น โดยเฉพาะเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งถูกวางไว้เป็น Smart City และ Digital Hub ในภูมิภาค
ประเทศไทยจึงควรเร่งเตรียม 1.แผนพัฒนา AI ระดับชาติ 2.ให้การศึกษามาอยู่ใน loop เชื่อมต่อกับอุตสาหกรรม 3.พัฒนากลยุทธ์ Information Science และ Data Analytics และ 4.ทำแผนส่งเสริม Incentive Package รวมทั้งเสริมความร่วมมือของทุกภาคส่วน เช่น EEC กับ
วสท., สมาคมสถาปนิกสยาม และสมาคม BIM ประเทศไทย เป็นต้น
ในการเตรียมจัดงานวิศวกรรมแห่งชาติ 2562” เพื่อตอบรับกระแสโลกและแนวนโยบายของภาครัฐและเอกชนในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าวว่า ในปีนี้ “งานวิศวกรรมแห่งชาติ 2562” (National Engineering 2019) ภายใต้แนวคิด “Engineering for Society : Digital Transformation” นับเป็นงานจัดแสดงผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กำหนดจัดในวันที่ 13 – 15 พ.ย. 62 ณ ฮอลล์ 4 อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี
โดยมีวัตถุประสงค์การจัดงาน เพื่อเป็นศูนย์กลางติดต่อสื่อสารและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และนวัตกรรมสู่วิศวกร ผู้ออกแบบ ผู้ผลิต ผู้ใช้งาน และประชาชนทั่วไป นำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมที่ทันสมัยและเป็นเวทีกิจกรรมให้กับคนรุ่นใหม่ที่สนใจเทคโนโลยี ทั้งนี้ โดย ดร.ทศพร ศรีเอี่ยม ประธานจัดงานวิศวกรรมแห่งชาติ 2562 กล่าวว่า งานวิศวกรรมแห่งชาติ 2562 โดยรวบรวมไฮไลท์เกี่ยวกับเมืองอัจฉริยะและชีวิตทันสมัย (Smart City and Smart Life), พลังงานทางเลือก (Renewable Energy), การเปลี่ยนผ่านธุรกิจองค์กรด้วยดิจิทัล (Digital Transformation), การยกระดับวิศวกรรมในประเทศไทย (Leverage Thailand Engineering), เทคโนโลยีความปลอดภัยและความมั่นคง (Safety and Security), การพัฒนาด้วยระบบ BIM Development ภายในงานประกอบด้วยบูทนิทรรศการ นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ก้าวล้ำด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เครื่องมือและเทคโนโลยีงานวิศวกรรมทุกสาขาเพื่อรองรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 มุ่งสู่การต่อยอดนวัตกรรมเพื่อธุรกิจ New S Curve และเทคโนโลยี เพื่อชีวิตทันสมัย ความปลอดภัย และการสร้างแรงบันดาลใจแก่คนรุ่นใหม่และคนไทย
นอกจากผู้มางานจะได้ประสบการณ์ลองผลิตภัณฑ์ไฮเทคด้วยตนเองแล้ว ยังมีโซนการแข่งขัน เช่น Battle Robot Warrior 2019 การแข่งขันหุ่นยนต์ต่อสู้ ระหว่าง 32 ทีม, การประกวดนวัตกรรม Kaizen ยอดเยี่ยมภาคอุตสาหกรรม 2019 พร้อมหัวข้อสัมมนากว่า 50 หัวข้อ ฟรี โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงระดับประเทศมาถ่ายทอดประสบการณ์ตรง เช่น การออกแบบวิศวกรรมในกระแส IoT, AI ยกระดับธุรกิจอุตสาหกรรม, เทคโนโลยี 5G เพิ่มพลังในธุรกิจอุตสาหกรรมสู่เป้าหมาย เป็นต้น กลุ่มเป้าหมายผู้มางานวิศวกรรมแห่งชาติ 2562 ได้แก่ ครอบครัวและคนทำงาน ไม่ว่าจะเป็นวิศวกร สถาปนิก นักออกแบบ ผู้ประกอบการ ผู้บริหารภาครัฐ และเอกชนผู้สนใจไอเดียธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจในอนาคต นักเรียนนักศึกษา และประชาชน
สามารถติดตามข้อมูลได้ที่ www.nationalengineering2019.com